อยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่พูดภาษาไม่ได้ ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?

อยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่พูดภาษาไม่ได้ ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?

5 เทคนิคการเตรียมความพร้อมทางด้านภาษา และ พัฒนาตนเองในการอยากเป็นแอร์

ในสังคมไทยที่อาชีพแอร์โฮสเตส (Air Hostess) หรือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยังคงเป็นความฝันของสาวๆ หลายคน ด้วยภาพลักษณ์ที่สง่างาม การเดินทางทั่วโลก และ รายได้ที่มั่นคง อาชีพนี้จึงได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในปี 2025 ที่อุตสาหกรรมการบินกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากวิกฤตโควิด-19 และ การท่องเที่ยวไทยบูมอีกครั้งจากนโยบาย visa-free ของรัฐบาล ทำให้ความต้องการแอร์โฮสเตสเพิ่มขึ้นถึง 20-30% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่ยังมีอุปสรรคใหญ่คือ "พูดภาษาไม่ได้" โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักในอาชีพนี้ คำถามที่เกิดขึ้นคือ "ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?" ความจริง คือ การขาดทักษะภาษาไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตัวเองที่ต้องมีแผนการชัดเจน และ ความมุ่งมั่น ดังนั้นบทความนี้เราจะแบ่งเป็นขั้นตอนละเอียดเพื่อความชัดเจน โดยครอบคลุมตั้งแต่การประเมินตัวเอง การพัฒนาทักษะภาษา การเตรียมคุณสมบัติอื่นๆ การเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพ โดยจะช่วยให้คุณที่พูดภาษาไม่ได้ก้าวสู่ความฝันได้อย่างมั่นคง


5 เทคนิคการพัฒนาตัวเองในด้านภาษาสำหรับผู้ที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส


1.ประเมินตัวเอง และ ตั้งเป้าหมาย – รู้จุดอ่อนเพื่อวางแผนที่ชัดเจน


สำหรับคนที่อยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่พูดภาษาไม่ได้ ขั้นตอนแรกที่ต้องทำ คือ การประเมินตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อรู้จุดอ่อน และ จุดแข็ง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการวางแผนพัฒนา เริ่มจากถามตัวเองว่า "ทำไมถึงอยากเป็นแอร์โฮสเตส?" ถ้าเหตุผล คือ การเดินทาง รายได้ หรือ ภาพลักษณ์ คุณต้องรู้ว่าอาชีพนี้ต้องการทักษะภาษาอังกฤษระดับ intermediate เป็นอย่างน้อยเพื่อสื่อสารกับผู้โดยสาร และ ทีมงาน  การประเมินตัวเองรวมถึงการทดสอบระดับภาษาอังกฤษ เช่น TOEIC หรือ IELTS เพื่อรู้ระดับปัจจุบัน ถ้าคุณอยู่ที่ระดับ beginner (A1-A2) คุณต้องวางแผนเรียน 6-12 เดือนเพื่อให้ถึงระดับ B1-B2 ซึ่งเป็นระดับที่สายการบินต้องการ


สำหรับคนที่พูดภาษาไม่ได้ การประเมินจะช่วยให้รู้ว่าต้องเริ่มจากศูนย์ เช่น ถ้าอ่านเขียนได้แต่พูดไม่ได้ ควรเน้น speaking ก่อน  การตั้งเป้าหมายช่วยให้คุณไม่ท้อ และ มีแรงบันดาลใจ โดยจดบันทึกความก้าวหน้าเพื่อติดตามผล  ขั้นตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรก่อนเพื่อให้ความฝันใกล้ความจริงมากขึ้น


2.พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ – ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ


สำหรับคนที่อยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่พูดภาษาไม่ได้เลย การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดก่อนสมัครแอร์โฮสเตส เพราะภาษาถือเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักในอาชีพนี้ เริ่มจากเรียนพื้นฐาน เช่น คำศัพท์เกี่ยวกับการบิน (aviation vocabulary) เช่น "fasten seatbelt" หรือ "emergency exit" เพื่อให้คุ้นชินกับภาษาที่ใช้จริง  วิธีพัฒนาที่แนะนำสำหรับมือใหม่ คือ เรียนคอร์สออนไลน์ต่างๆเพื่อสร้างพื้นฐาน grammar และ vocabulary วันละ 30-60 นาที  เป็นต้น


เคล็ดลับ คือ ต้องฝึกพูดทุกวัน เช่น ดูวิดีโอแอร์โฮสเตสบน YouTube และ พูดตามเพื่อฝึกสำเนียง และประโยคที่ใช้จริง หรือ หา conversation partner ผ่านแอปต่างๆ เพื่อพูดคุยกับเจ้าของภาษา  การฟังเพลง หรือ ดูซีรีส์ภาษาอังกฤษจะยิ่งช่วยให้คุ้นชินกับสำเนียง และ อ่านบทสนทนาแอร์เพื่อฝึกสถานการณ์จริง เช่น การประกาศบนเครื่อง หรือ จัดการผู้โดยสาร  การพัฒนาที่สม่ำเสมอจะช่วยให้คุณจากพูดไม่ได้กลายเป็นพูดคล่องภายใน 6-12 เดือน ซึ่งขึ้นกับความทุ่มเท


นอกจากภาษาอังกฤษ แล้วการเรียนภาษาอื่นๆ อย่างจีน หรือ ญี่ปุ่นก็ช่วยเพิ่มโอกาสกับสายการบินต่างชาติได้  โดยการพัฒนาภาษาเป็นก้าวแรกที่ทำให้คุณก้าวใกล้ความฝันมากขึ้น


3.เตรียมคุณสมบัติพื้นฐานอื่นๆ – ร่างกาย จิตใจ และ เอกสาร


นอกจากภาษา คุณสมบัติพื้นฐานอื่นๆของผู้ที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อผ่านการคัดเลือกแอร์โฮสเตสแล้ว การเริ่มจากร่างกายที่ต้องแข็งแรง สูงอย่างน้อย 158 ซม. (สำหรับหญิง) โดยไม่มีรองเท้า และ น้ำหนักสมส่วนตาม BMI (Body Mass Index) 18.5-24.9 เพื่อให้เหมาะกับการยืนนาน และ สวมเครื่องแบบ  ถ้าสูงไม่ถึง ควรออกกำลังกายเพื่อยืดตัว หรือ เลือกสายการบินที่มีความผ่อนปรนกว่า


ด้านสุขภาพ ต้องตรวจร่างกายให้ผ่าน เช่น สายตาไม่เกิน -5.00  diopter และ ไม่มีโรคเรื้อรังอย่างหอบหืด หรือ หัวใจ  สำหรับจิตใจ ต้องฝึกความอดทน และ ยิ้มแย้มอย่างสม่ำเสมอ เพราะแอร์ต้องจัดการผู้โดยสารที่หลากหลาย  การเตรียมเอกสารเช่น วุฒิปริญญาตรี (อย่างน้อย) และ ใบรับรองภาษา TOEIC 550+ คะแนน  การเตรียมคุณสมบัติพื้นฐานจะยิ่งช่วยให้คุณพร้อมสมัคร และ ผ่านคัดเลือกได้


การเตรียมขั้นตอนพื้นฐานจะช่วยให้คุณที่ภาษายังไม่ดีมีโอกาสมากขึ้นเพราะสายการบินจะดูองค์รวม


4.เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพแอร์โฮสเตส และ อุตสาหกรรมการบิน


ก่อนสมัครแอร์โฮสเตส ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพแอร์โฮสเตสเพื่อเข้าใจข้อดีข้อเสีย และ เตรียมตัวให้พร้อม อาชีพนี้มีหน้าที่บริการผู้โดยสาร ความปลอดภัย และ จัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ข้อเสีย คือเวลาไม่แน่นอน และ งานหนัก  ซึ่งต้องเรียนรู้จากหนังสือ บล็อก หรือ สัมภาษณ์แอร์จริงเพื่อให้รู้ความจริงเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของแอร์


5.เตรียมเอกสารสมัคร และ เข้ารับการอบรม


เมื่อมีความพร้อม ให้เตรียมเอกสารสมัคร เช่น ประวัติส่วนตัว รูปถ่าย และ ใบรับรองภาษา หรือ เลือกเข้ารับการอบรมคอร์สแอร์โฮสเตสจากสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเรียนทักษะบริการ และ ภาษาเฉพาะอาชีพ  การอบรมจะยิ่งช่วยให้ผ่านการสัมภาษณ์ และ เตรียมพร้อมสำหรับงานได้ ซึ่งการเตรียมขั้นนี้จะยิ่งช่วยให้คุณสมัคร และ เริ่มอาชีพได้อย่างมั่นใจ


จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าการอยากเป็นแอร์โฮสเตสไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนที่พูดภาษาเก่งเท่านั้น แต่คือคนที่มีความตั้งใจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ ไม่กลัวที่จะเริ่มต้น แม้จะยังพูดไม่ได้ในตอนนี้ แต่ถ้ามีเป้าหมายชัด และ ฝึกฝนทุกวัน คุณก็สามารถก้าวสู่เส้นทางอาชีพในฝันได้แน่นอน “ภาษาไม่ใช่กำแพง ถ้ามีใจอยากเป็นแอร์จริง ทุกคำพูดที่ฝึกวันนี้ คือ บันไดสู่ฟ้าในวันข้างหน้า” โดยหากคุณกำลังมองหาสถาบันที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะของอาชีพนี้เราขอแนะนำ  Crewacademy ซึ่งเป็นสถาบันเตรียมความพร้อมเรียนแอร์โฮสเตส และ สจ๊วต อันดับ 1 ที่โดดเด่นเหนือใคร สำหรับผู้ที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส ที่จะสามารถพิชิตใจกรรมการ หลายๆสายการบิน สอนโดยครูฝ้าย ประสบการณ์ การสอนกว่า 19 ปี อีกทั้งยังมีการฝึกทักษะเตรียมความพร้อมทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มสมัครจนถึงขั้นตอนสัมภาษณ์ทุกขั้นตอน ซึ่งได้รับการการันตีจากลูกศิษย์ที่สามารถสอบเป็นแอร์ หรือ สจ๊วตได้มากมาย จึงมั่นใจได้ว่าหากเลือกเรียนกับสถาบัน crewacademy จะได้รับเทคนิค เคล็ดลับต่างๆในการเตรียมสมัครแอร์ และ เตรียมความพร้อม ก่อนเป็นแอร์ และ สจ๊วตอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถาม

สถาบันสอนแอร์โฮสเตส และ สจ๊วต CrewAcademy

โทร : 062-552-6499

Line : @crewacademy

E-mail : [email protected]