จากใจ “สาวประเภทสอง” สู่คนที่มีฝันอยากเป็นแอร์
เจนี่เชื่อว่าอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นความฝันของผู้หญิง รวมถึงผู้หญิงข้ามเพศหลาย ๆ คน
ตั้งแต่เด็กจนโต วิชาที่เจนี่ไม่ชอบเรียนเลยคือ “วิชาภาษาอังกฤษ” ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย ติด 0 มาโดยตลอด จนกระทั้งเจนี่อายุ 17 ปี เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้มีโอกาสเห็นพี่ๆ แอร์ ใส่ชุดยูนิฟอร์มเดินลากกระเป๋าในสนามบิน “ทำไมพวกพี่เค้าสวยจัง ชุดก็เริ่ด มีมงมีหมวก ใส่ส้นสูง ลากกระเป๋า…อร้ายยยย ฉันอยากเป็นแอร์…” นี้คือสิ่งที่จุดประกายความฝันที่อยากเป็นแอร์ เจนี่เริ่มศึกษาอาชีพนี้จากหนังสือในห้องสมุด และสิ่งที่เจนี่ต้องเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตัวเองคือ ภาษาอังกฤษ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอาชีพนี้มาก เจนี่เริ่มเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่คำศัพท์ง่าย ๆ “Cat, Dog, Boy, Girl” จนกระทั่งมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้เกรด 4 ในวิชาภาษาอังกฤษ
เจนี่เลือกเรียนสาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยวในระดับอุดมศึกษา เพื่อต่อยอดในเส้นทางอาชีพนี้ วิถีชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เจนี่แต่งกายเป็นผู้หญิง ขณะเรียนปี 3 ซึ่งจะต้องฝึกงานภาคปฎิบัติก่อนจบการศึกษา อาจารย์ในคณะโทรมาสอบถามว่า “ยุทธนา เธออยากเป็นนักศึกษาฝึกงานที่สายการบินไหม เธอจะได้ทำงานสายการบินระดับโลกเลยนะ แต่เธอต้องกลับมาแต่งตัวเป็นผู้ชาย ตัดผมสั้น และต้องไปฝึกงานที่เชียงใหม่ เธอโอเคหรือเปล่า” เจนี่ตอบตกลงอาจารย์ทันทีโดยไม่คิด เพราะโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับสายการบินระดับโลกมันยากมาก
ขณะฝึกงาน เป็นช่วงเวลา High season เจ้าหน้าที่สายการบินจึงยุ่งมาก ไม่มีเวลาดูแล หรือสอนงานเลย เจนี่สังเกตพี่ๆ เค้าทำงาน และเสนอตัวเองเข้าไปช่วย จนกระทั่งพี่ๆ เค้ารัก เอ็นดู และไว้ใจมอบหมายงานให้ทำ ครั้นถึงวันสุดท้ายก่อนจะเสร็จสิ้นการฝึกงาน ผู้จัดการใหญ่ประจำศูนย์เชียงใหม่เรียกเข้าพบ และเสนองานให้เจนี่ได้ร่วมงานกับสายการบินหลังเรียนจบทันที แต่เจนี่มีสิ่งหนึ่งที่ขอร้อง คือ “เจนี่ขออนุญาตแต่งชุดทำงานผู้หญิงได้ไหมคะ” ผู้จัดการใหญ่ไม่สามารถตอบรับสิ่งที่เราร้องขอได้ เนื่องจากขัดต่อกฎระเบียบของบริษัท
หลังจบการศึกษาเจนีได้เข้าทำงานในโรงแรม 4 ดาวในพัทยา โดยทางโรงแรมอนุญาตให้เราแต่งกายตามเพศสภาพได้ เจนี่เริ่มทำตั้งแต่พนักงานต้อนรับส่วนหน้า พนักงานสำรองห้องพัก พนักงานขายและการตลาด แต่อาชีพแอร์ก็ยังคงอยู่ในใจเรามาโดยตลอด เกือบทุกครั้งที่ต้องขับรถไปทำงานที่พัทยา เจนี่จะแวะจอดรถ ดูเครื่องบิน ขึ้น-ลง บริเวณจุดชมวิวด้านข้างสนามบินเสมอ
เจนี่ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ก็ยังคงเลือกเรียนสาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว หลังจบการศึกษาเจนีมีเงินเก็บส่วนหนึ่ง จึงเลือกไปเรียนภาษาที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จนกระทั่งมาเรียนต่อที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา 8 ปีในซานฟรานซิสโกทำให้เจนี่มีโอกาสได้กรีนการ์ด และสามารถทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา
อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ทุกวัฒนธรรม เจนี่ไม่รอช้าจองตั๋วเครื่องบินกลับไทย เพื่อมาเรียนกับครูฝ้ายที่สถาบัน CrewAcademy
ครูฝ้ายเป็นครูที่สอนหมดเปลือก ไม่กั๊ก ไม่หวง ไม่มีหมกเม็ด เทคนิคต่างๆ บุคลิกภาพทั้งการนั่ง การเดิน การไหว้ การปฎิบัติตัวให้โดนเด่นเพื่อให้เข้าตากรรมการ ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 3 เดือน และเจนี่ติดตามดูคลิปทางไลน์ ตามคลิปวิดีโอ จากครูฝ้าย CrewAcademy เสมอมา
และแล้วเมื่อทางสายการบินในประเทศอเมริกาเปิดรับสมัคร เจนี่ไม่รอช้า รีบอัพเดท แก้ไข Resume และกดสมัครทันที สมัครครั้งที่ 1 และ 2 เจนี่ไม่ผ่านการคัดเลือก เจนี่ท้อมาก แต่ไม่ถอย บอกกับตัวเองว่า “…อีเจเอ็นวาย คนอื่นทำได้ เมิงก็ต้องทำได้ นี่แค่ 2 ครั้งเอง เอาใหม่ซิ ตั้งใจใหม่ ทำให้ดีกว่าเดิม” เจนี่จึงลุกขึ้นสู้อีกครั้งจนสำเร็จในครั้งที่ 3 ค่ะ
จากความ(เพ้อ)ฝันถึงความจริง ในระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี วันนี้เจนี่ทำได้แล้วค่ะ เจนี่มีปีกเป็นของตัวเอง เจนี่กล้าที่จะพูดออกมาได้เต็มปากว่า “I am a DELTA Flight Attendant”
มันเป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 37 ปี ที่ดีที่สุดในชีวิต
ขอบคุณตัวเอง อีเจเอ็นวาย ที่สู้ไม่ถอย
ขอบคุณม๊า ป๊า ทั้ง 6 คน ที่อยู่เบื้องหลัง
ขอบคุณแม่ๆ ทั้งหลาย ทุกท่าน ทุกวงการ ที่คอย Support และให้กำลังใจ
ที่สำคัญ เจนี่ขอบคุณครูฝ้ายและสถาบัน CrewAcademy ที่ดูแลและช่วยเหลือเจนี่มาโดยตลอด
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ค่อยให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ
ขอบคุณผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ที่ให้โอกาส
ขอบคุณ Delta Airlines ที่มอบชีวิตใหม่ให้เจนี่
**Overcoming all these things
Here I finally found my wings
Now I know I’m ready to fly
This is my time to shine
This is my place to find
All that I have inside
I never knew
This is my time to show
What I must have always known
That nothing’s impossible
And dreams come true
THIS IS MY TIME
เจนค่ะ เจนค่ะ หนูชื่อเจน มากับนี่ แล้วก็มากับจึ๋ง
เจนี จึ๋ง
**Cr. This is my time by Raven Symone