เป็นสจ๊วตไม่ยากอย่างที่คิด! รวมสายการเรียนที่เปิดประตูสู่อาชีพในฝัน

เรียนสายไหนถึงจะอยากเป็นสจ๊วตได้? รวมสาขายอดนิยมที่ต่อยอดได้จริง

อาชีพ “สจ๊วต” หรือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาย เป็นหนึ่งในอาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝัน ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูภูมิฐาน รายได้ดี มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ และ ได้พบเจอผู้คนจากทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน หลายๆคนกลับเข้าใจผิดว่าอาชีพนี้ต้องเรียนจบสายเฉพาะ หรือ มีเงื่อนไขซับซ้อน ทั้งที่ในความเป็นจริง “สจ๊วต” เปิดกว้างสำหรับคนที่มีความสามารถ และ ทัศนคติที่เหมาะสมมากกว่าการเรียนในสาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ สายการเรียนที่สามารถต่อ

ยอดสู่อาชีพสจ๊วตได้จริง พร้อมแนะแนวทักษะและการเตรียมตัวสำหรับผู้ชายที่อยากเป็นสจ๊วตอย่างมืออาชีพ

อาชีพสจ๊วต คือ อะไร? เข้าใจบทบาทก่อนตัดสินใจอยากเป็นสจ๊วต

ต้องเข้าใจก่อนว่า “สจ๊วต” (Flight Attendant) คือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และ ความสะดวกสบายของผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ไม่ได้มีหน้าที่เพียงบริการอาหาร หรือ เครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคลากรด้านความปลอดภัยที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทั้งการอพยพฉุกเฉิน การช่วยชีวิต (CPR) และ การรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนเครื่อง โดยหน้าที่หลักของสจ๊วต เช่น

ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์นิรภัยก่อนเครื่องออก
ดูแลการขึ้น-ลงเครื่องของผู้โดยสาร
ให้บริการอาหาร และเครื่องดื่ม
ให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หรือ คนพิการ
จัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เครื่องสั่น ไฟไหม้ หรือ ผู้โดยสารเจ็บป่วย

จะเห็นได้ว่า สจ๊วตไม่ใช่แค่อาชีพที่ “ดูดี” แต่ยังเป็นอาชีพที่ต้องการ “ความรับผิดชอบสูง และ ใจบริการที่แท้จริง” ทำให้ผู้ที่อยากเป็นสจ๊วตจะต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

อยากเป็นสจ๊วตต้องเรียนสายไหนถึงจะเป็น?

หลายๆคนอาจเข้าใจผิดว่าถ้าหากอยากเป็นสจ๊วตต้องเรียน “เกี่ยวกับสายการบิน” หรือ “การท่องเที่ยว” เท่านั้นถึงจะเป็นสจ๊วตได้ แต่ความจริง คือ อาชีพนี้เปิดกว้างมาก ใครก็สามารถสมัครได้ตราบเท่าที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และ มีคุณสมบัติที่สายการบินกำหนด

โดยต่อไปนี้คือ สายการเรียนที่ได้รับความนิยม และ สามารถต่อยอดสู่อาชีพสจ๊วตได้จริง มีอะไรบ้าง เช่น

1. สายมนุษยศาสตร์ และ ศิลปศาสตร์ (Humanities & Liberal Arts)

สาขานี้เหมาะกับผู้ที่รักการสื่อสาร มีทักษะด้านภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ , ภาษาจีน , ภาษาญี่ปุ่น และ การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม โดยจุดเด่นของสาขานี้นั้น คือ จะช่วยให้คุณเข้าใจผู้คนได้หลากหลายชาติ ทำให้สื่อสารกับผู้โดยสารได้อย่างมืออาชีพ

2. สายการท่องเที่ยว และ การโรงแรม (Tourism & Hospitality)

อีกหนึ่งสาขาที่เป็น “ทางตรง” ของผู้ที่อยากเป็นสจ๊วต นั้นก็คือการท่องเที่ยว และ โรงแรม เพราะมีพื้นฐานการบริการ การจัดการลูกค้า และ การสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร

3. สายบริหารธุรกิจ (Business Administration)

ผู้ที่เรียนสายนี้มักมีทักษะการจัดการ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และ การทำงานเป็นทีมได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญอย่างมาก

4. สายการบิน (Aviation Management)

สำหรับผู้ที่อยากเป็นสจ๊วต และ ต้องการเรียนตรงสายโดยเฉพาะ หลักสูตรนี้จะสอนเกี่ยวกับการจัดการภาคพื้น การสื่อสารในอุตสาหกรรมการบิน และ ระเบียบด้านความปลอดภัย

5. สายศิลปะการแสดง หรือ สื่อสารมวลชน (Communication Arts)

สจ๊วตที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนนั้นมักมาจากสายนี้ เพราะ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เรียนสาขานี้นั้นมักมีบุคลิกภาพดี พูดจาชัดเจน กล้าแสดงออก และ สามารถเรียนรู้วิธีสื่อสารได้อย่างมีเสน่ห์ นั้นเอง

คุณสมบัติพื้นฐานของผู้สมัครที่อยากเป็นสจ๊วต

แม้การที่อยากเป็นสจ๊วต ต้องผ่านสายการเรียนที่แม้จะไม่ตายตัว แต่สจ๊วตทุกคนต้องมีคุณสมบัติพื้นฐาน ดังนี้

จบปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา
อายุโดยทั่วไป 21–30 ปี
ส่วนสูงอย่างน้อย 170 ซม. (แตกต่างตามสายการบิน)
สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
บุคลิกภาพดี น้ำเสียงชัดเจน

และ พูดภาษาอังกฤษได้ดี (TOEIC 600 คะแนนขึ้นไปเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำของหลายสายการบิน)

คอร์สเรียนแนะนำสำหรับผู้ชายที่อยากเป็นสจ๊วต

แม้คุณจะไม่ได้เรียนตรงสายในการเป็นสจ๊วต แต่เราก็สามารถเตรียมตัวการอยากเป็นสจ๊วตด้วยการเข้าอบรม หรือ เรียนคอร์สเฉพาะทางเพื่อส่งเสริมทักษะได้ เช่น

คอร์สเตรียมสอบสจ๊วต (Cabin Crew Preparation)
ที่จะเน้นฝึกบุคลิกภาพ การสัมภาษณ์ การเดินแบบ การพูดภาษาอังกฤษ รวมถึงบทสนทนาจำลองสถานการณ์จริงเพื่อให้ผู้สมัครได้เรียนรู้สถานการณ์จริง
คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อการบิน (Aviation English)
เป็นคอร์สที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารกับผู้โดยสาร และ ลูกเรือ
คอร์สการบริการและมารยาทสากล (Service Etiquette)

คอร์สนี้จะสามารถทำให้ผู้เรียนๆรู้มารยาทระหว่างประเทศ การเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม และ การดูแลลูกค้าแบบมืออาชีพ

ขั้นตอนการสมัครเป็นสจ๊วตที่ควรเรียนรู้

เตรียมเอกสาร – Resume, Transcript, ผลสอบภาษาอังกฤษ (TOEIC), รูปถ่ายเต็มตัว
สมัครสายการบินที่เปิดรับ – ทั้งในประเทศ เช่น Thai Airways, Bangkok Airways หรือ สายต่างประเทศ
เข้าร่วมการสัมภาษณ์ – รอบ Group Discussion, รอบเดี่ยว และ รอบทดสอบภาษา
ตรวจร่างกาย และ ฝึกอบรม – เมื่อผ่านการคัดเลือก ต้องเข้ารับการฝึกตามหลักสูตรความปลอดภัยของแต่ละสายการบิน

จะเห็นได้ว่าการที่อยากเป็นสจ๊วตไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีความตั้งใจ เตรียมตัวอย่างถูกวิธี และ พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะเรียนสายไหน ก็สามารถเปิดประตูสู่อาชีพในฝันได้ เพราะสิ่งที่สายการบินมองหา มากที่สุดไม่ใช่ “วุฒิการศึกษา” แต่ คือ “จิตบริการ ความอดทน และ ความเป็นมืออาชีพ” ที่พร้อมจะดูแลผู้โดยสารทุกคนบนท้องฟ้า ดังนั้นหากสนใจอยากเป็นสจ๊วต แล้วต้องการเพิ่มทักษะความมั่นใจเราขอแนะนำ CrewAcademy ซึ่งเป็นสถาบันเตรียมความพร้อมเรียนแอร์โฮสเตส และ สจ๊วต อันดับ 1 ที่โดดเด่นเหนือใคร สำหรับผู้ที่อยากเป็นสจ๊วต ที่จะสามารถพิชิตใจกรรมการ หลายๆสายการบิน สอนโดยครูฝ้าย ประสบการณ์ การสอนกว่า 19 ปี อีกทั้งยังมีการฝึกทักษะเตรียมความพร้อมทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มสมัครจนถึงขั้นตอนสัมภาษณ์ทุกขั้นตอน ซึ่งได้รับการการันตีจากลูกศิษย์ที่สามารถสอบเป็นแอร์ หรือ สจ๊วตได้มากมาย จึงมั่นใจได้ว่าหากเลือกเรียนกับสถาบัน CrewAcademy จะได้รับเทคนิค เคล็ดลับต่างๆในการเตรียมสมัครแอร์ และ เตรียมความพร้อม ก่อนเป็นแอร์ และ สจ๊วตอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถาม

สถาบันสอนแอร์โฮสเตส และ สจ๊วต CrewAcademy

โทร : 062-552-6499

Line : @crewacademy

E-mail : [email protected]